3 เครื่องปรุงรสที่คนญี่ปุ่นต้องมีติดครัว

                                   3 เครื่องปรุงรสที่คนญี่ปุ่นต้องมีติดครัว

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน  หลาย ๆ บทความที่กวางได้เขียนก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเรื่องของการ ทำอาหารญี่ปุ่นทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ ?  วันนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมค่ะ บทความที่กวางจะเขียนในวันนี้ ก็ยังคงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นอยู่เช่นเคย เพียงแต่วันนี้ กวางจะมาเขียนในส่วนของเครื่องปรุงรสอาหารญี่ปุ่นค่ะ 

เครื่องปรุงรสเปรียบเสมือนกับหัวใจหลัก ของการทำอาหาร หากเราไม่รู้จักเครื่องปรุงรสของอาหารนั้น ๆ ที่เราจะทำ

ว่ามีอะไรบ้าง ก็คงจะเป็นการยาก ที่เราจะสามารถทำอาหารให้อร่อยได้ เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับเครื่องปรุงรสของอาหารญี่ปุ่นกันเถอะค่ะ

เครื่องปรุงรสอาหารญี่ปุ่น หลัก ๆ เลย จะมีอยู่ 3 อย่างด้วยกันนะคะ เริ่มจาก

1. โชยุ (Shoyu)

2. มิริน (Mirin)

3. สาเก (Rrori Shu)

โชยุ

โชยุคืออะไรโชยุคือซอสที่ทำมาจากการถั่วเหลือง  

ถั่วเหลืองที่นำไปหมักจนได้ที่ แบบเดียวกันกับซอสถั่วเหลือง 

ของบ้านเราเลยค่ะ เพียงแต่จะมีคนละรสชาติเท่านั้น

 โชยุ ถือได้ว่าเป็นเครื่องปรุงหลัก ที่สำคัญของอาหารญี่ปุ่นเลยค่ะ อาหารญี่ปุ่นทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น  ต้ม ผัด แกง ทอด อาหารทะเลกินสด (ซาชิมิ )  ล้วนแต่ต้องใช้โชยุ ในการปรุงอาหารหรือกินคู่ทั้งนั้นเลยค่ะ หากจะเปรียบเทียบกับเครื่องปรุงรสของคนไทย ก็คงจะเปรียบได้กับ “น้ำปลา” ที่คนไทยทุกบ้าน

ต้องมีติดครัวกัน ซึ่งคนญี่ปุ่นเองก็มีโชยุติดครัวอยู่ทุกบ้านเช่นกันค่ะ

โชยุแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ 

1. โชยุแบบเข้มข้น Koikuchi Shoyu 

โชยุแบบเข้มข้นเหมาะกับอาหารประเภทใด

โชวยุอยู่แบบเข้มข้นเหมาะกับอาหารประเภทต้ม ตุ๋น อาหารที่ต้องการสีสันที่เข้ม เช่น หมูสามชั้นต้มพะโล้ เป็นต้น

2. โชยุแบบสีอ่อน Usui kuchi Shoyu

โชยุแบบสีอ่อนเหมาะกับอาหารประเภทใด

โชยุสีจางเหมาะกับอาหาร ที่ต้องการแค่รสของโชยุ แต่ไม่ต้องการสีของโชยุค่ะ เพราะสีของโชยุ อาจจะทำให้หน้าตาของอาหารดูไม่น่ากินค่ะ เช่น ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น เป็นต้น

      3.โชยุ ทามาริ (Tamari Shoyu)

โชยุทามาริเหมาะกับอาหารประเภทใด

โชยุทามาริเหมาะกับอาหารประเภท ชาชิมิ ซูชิ ค่ะ 

มิริน

มิรินคืออะไร มิรินคือเหล้าหวานที่ได้มาจากการหมักข้าวผสมน้ำตาล เมื่อนำมาผ่านกระบวนการหมักจนได้ที่ จึงทำให้เกิดเป็นน้ำมิรินขึ้นมาค่ะ ( รสชาติของมิรินจะคล้าย ๆ กับน้ำผลไม้เอมไซม์หมักของบ้านเราเลยค่ะ) 

มิรินที่วางขายตามซุปเปอร์จะมีอยู่สองประเภทก็คือ

1. มิรินแท้ ฮงมิริน (Hon Mirin)

มิรินประเภทนี้จะเป็นมิรินที่ทำอาหารได้อร่อยที่สุด มีราคาสูงกว่ามิรินอีกประเภท (Aji Mirin) ถึง 1-2 เท่าตัว (มีปริมาณแอลกอฮอล์ 14 % น้ำตาล 46 %)

2. มิรินไม่แท้ (Aji Mirin)

คือมิรินที่เลียนแบบรสชาติของมิรินแท้ค่ะ มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ต่ำมาก 8 % เท่านั้น มีรสชาติถูกกว่ามิรินแท้เยอะเลยค่ะ ส่วนเรื่องรสชาติก็ตามราคาเลยค่ะ ความอร่อยสู้มิรินแท้ไม่ได้แน่นอนค่ะ

มิรินเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง

มิรินเหมาะกับอาหารประเภทที่ต้องการความหวานนำ เช่น

ผัดขิงใส่หมู ผัดผักรวมมิตร เป็นต้น เพราะรสชาติที่ได้จะออกหวานละมุมธรรมชาติ ทำให้เราไม่ต้องใส่น้ำตาลเพิ่มค่ะ

สาเก เรียวริชู (Ryouri Shu)

สาเกคืออะไร สาเกคือเหล้าที่ได้มาจากข้าวที่ผ่านกระบวนการหมักเช่นเดียวกันกับมิรินเลยค่ะ แต่จะสาเกจะต่างกับมิรินตรงที่หมักกับเกลือแทนน้ำตาล ทำให้รสชาติของสาเกที่ได้ จะออกรสเค็ม สาเกมีปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% ปริมาณแอลกอฮอล์ของสาเกจะมีมากกว่ามิรินอยู่เล็กน้อยค่ะ

สาเกเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง

สาเกเหมาะกับอาหารประเภทหมักอย่างเช่น ปลาย่าง ไก่ทอดเป็นต้น เพราะสาเกสามารถช่วยลดดับกลิ่นคาวของอาหารได้ และรสชาติความเค็มของสาเกยังทำให้อาหารที่เราหมักนั้น มีรสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ? สำหรับบทความเครื่องปรุงรสญี่ปุ่นที่กวาง นำมาฝากในวันนี้  สำหรับมือใหม่คนไหน ที่เพิ่งเริ่มหัดทำอาหารญี่ปุ่นทานเอง  กวางหวังว่าบทความนี้ จะช่วยทำให้เพื่อน ๆ เข้าใจเกี่ยวกับ การเลือกซื้อเลือกใช้ เครื่องปรุงอาหารญี่ปุ่นได้ดีมากยิ่งขึ้นนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า

                                     กวาง-สะใภ้ปลาดิบ

เพื่อน ๆ สามารถติดตามชีวิตของแม่บ้านญี่ปุ่นคนนี้

ได้เพิ่มเติมจากช่องทางต่าง ๆ เหล่านี้เลยนะคะ

YouTube: สะใภ้ปลาดิบ https://bit.ly/38ZbMnD 

Facebook page : สะใภ้ปลาดิบ